') //-->
<<หลัง | < สารบัญ> | ก่อน >> |
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ พระผู้ทรงเมตตา พระผู้ทรงปรานียิ่งเสมอ |
|
อัซซ็อฟ (As-Saff) |
|
سَبَّحَ لِلَّهِ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ وَهُوَ الْعَزِيزُ الْحَكِيمُ (1) |
1. สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน ต่างแซ่ซ้องสดุดีแด่อัลลอฮฺ พระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณยิ่ง |
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آَمَنُوا لِمَ تَقُولُونَ مَا لَا تَفْعَلُونَ (2) |
2. โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ทำไมสูเจ้าจึงพูดในสิ่งที่สูเจ้าไม่ปฏิบัติ |
كَبُرَ مَقْتًا عِندَ اللَّهِ أَن تَقُولُوا مَا لَا تَفْعَلُونَ (3) |
3. เป็นเหตุให้กริ้วอย่างยิ่ง ณ อัลลอฮฺ การที่สูเจ้าพูดแต่สูเจ้าไม่ปฏิบัติ |
إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الَّذِينَ يُقَاتِلُونَ فِي سَبِيلِهِ صَفًّا كَأَنَّهُم بُنيَانٌ مَّرْصُوصٌ (4) |
4. อัลลอฮฺ ทรงรักบรรดาผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของพระองค์เป็นแถวๆ ประหนึ่งอาคารที่มั่นแข็งแรง |
وَإِذْ قَالَ مُوسَى لِقَوْمِهِ يَا قَوْمِ لِمَ تُؤْذُونَنِي وَقَد تَّعْلَمُونَ أَنِّي رَسُولُ اللَّهِ إِلَيْكُمْ فَلَمَّا زَاغُوا أَزَاغَ اللَّهُ قُلُوبَهُمْ وَاللَّهُ لَا يَهْدِي الْقَوْمَ الْفَاسِقِينَ (5) |
5. จงรำลึก เมื่อมูซากล่าวแก่หมู่ชนของเขาว่า โอ้ หมู่ชนของฉัน ทำไมพวกเจ้าจึงกลั่นแกล้งฉัน ทั้งที่พวกเจ้ารู้แน่นอนว่าฉันเป็นเราะซูลของอัลลอฮฺที่มายังพวกเจ้า ดังนั้น เมื่อพวกเขาหันเหไปจากสัจธรรม อัลลอฮฺก็ทรงทำให้หัวใจของพวกเขาหันเหออกไป อัลลอฮฺ จะไม่ทรงชี้นำ หมู่ชนผู้ฝ่าฝืน |
وَإِذْ قَالَ عِيسَى ابْنُ مَرْيَمَ يَا بَنِي إِسْرَائِيلَ إِنِّي رَسُولُ اللَّهِ إِلَيْكُم مُّصَدِّقًا لِّمَا بَيْنَ يَدَيَّ مِنَ التَّوْرَاةِ وَمُبَشِّرًا بِرَسُولٍ يَأْتِي مِن بَعْدِي اسْمُهُ أَحْمَدُ فَلَمَّا جَاءَهُم بِالْبَيِّنَاتِ قَالُوا هَذَا سِحْرٌ مُّبِينٌ (6) |
6. จงรำลึก เมื่ออีซาบุตรของมัรยัมกล่าวว่า โอ้ วงศ์วานของอิสรออีลเอ๋ย แท้จริง ฉันเป็นเราะซูลของอัลลอฮฺที่มายังพวกเจ้า ขณะที่ฉันเป็นผู้รับรองคัมภีร์เตารอตซึ่งถูกประทานลงมาก่อนหน้าฉัน ฉันเป็นผู้แจ้งข่าวดีถึงเราะซูลคนหนึ่งที่จะมาหลังจากฉันนามว่าอะฮฺมัด ครั้นเมื่อเขา (อะฮฺมัด) ได้มายังพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้ง พวกเขาก็กล่าวว่านี่คือมายากลแน่นอน |
وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنِ افْتَرَى عَلَى اللَّهِ الْكَذِبَ وَهُوَ يُدْعَى إِلَى الْإِسْلَامِ وَاللَّهُ لَا يَهْدِي الْقَوْمَ الظَّالِمِينَ (7) |
7. จะมีผู้ใดอธรรมยิ่งกว่าผู้กล่าวเท็จต่ออัลลอฮฺ ขณะที่เขาถูกเชิญชวนสู่อิสลาม อัลลอฮฺ จะไม่ทรงชี้นำหมู่ชนผู้อธรรม |
يُرِيدُونَ لِيُطْفِئُوا نُورَ اللَّهِ بِأَفْوَاهِهِمْ وَاللَّهُ مُتِمُّ نُورِهِ وَلَوْ كَرِهَ الْكَافِرُونَ (8) |
8. พวกเขาปรารถนาที่จะดับรัศมีของอัลลอฮฺด้วยปากของพวกเขา ทว่าอัลลอฮฺทรงทำให้รัศมีของพระองค์สมบูรณ์ แม้ว่าพวกปฏิเสธจะเกลียดชังก็ตาม |
هُوَ الَّذِي أَرْسَلَ رَسُولَهُ بِالْهُدَى وَدِينِ الْحَقِّ لِيُظْهِرَهُ عَلَى الدِّينِ كُلِّهِ وَلَوْ كَرِهَ الْمُشْرِكُونَ (9) |
9. พระองค์คือ ผู้ทรงประทานเราะซูลของพระองค์ด้วยการชี้นำทางและศาสนาแห่งสัจธรรม เพื่อเขาจะได้มีชัยเหนือศาสนาทั้งมวล ถึงแม้พวกตั้งภาคีจะเกลียดชังก็ตาม |
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آَمَنُوا هَلْ أَدُلُّكُمْ عَلَى تِجَارَةٍ تُنجِيكُم مِّنْ عَذَابٍ أَلِيمٍ (10) |
10. โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จะให้ข้าชี้แนะการค้าแก่สูเจ้าที่จะช่วยให้สูเจ้ารอดพ้นจากการลงโทษอันเจ็บปวดไหม |
تُؤْمِنُونَ بِاللَّهِ وَرَسُولِهِ وَتُجَاهِدُونَ فِي سَبِيلِ اللَّهِ بِأَمْوَالِكُمْ وَأَنفُسِكُمْ ذَلِكُمْ خَيْرٌ لَّكُمْ إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ (11) |
11. สูเจ้าจงศรัทธาต่ออัลลอฮฺและเราะซูลของพระองค์ และต่อสู้ในทางอัลลอฮฺด้วยทรัพย์สินและชีวิตของสูเจ้า นั่นเป็นการดี (กว่าทุกสิ่ง) สำหรับสูเจ้า หากสูเจ้ารู้ |
يَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ وَيُدْخِلْكُمْ جَنَّاتٍ تَجْرِي مِن تَحْتِهَا الْأَنْهَارُ وَمَسَاكِنَ طَيِّبَةً فِي جَنَّاتِ عَدْنٍ ذَلِكَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ (12) |
12. (ถ้าสูเจ้าทำเช่นนั้น) พระองค์จะอภัยความผิดให้สูเจ้า และจะทรงให้สูเจ้าเข้าสวนแห่งสวรรค์อันหลากหลาย ณ เบื้องล่างมีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ให้สถานพำนักอันบริสุทธิ์ในสรวงสวรรค์อันถาวร นั่นคือความสำเร็จอันใหญ่หลวง |
وَأُخْرَى تُحِبُّونَهَا نَصْرٌ مِّنَ اللَّهِ وَفَتْحٌ قَرِيبٌ وَبَشِّرِ الْمُؤْمِنِينَ (13) |
13. และ (ความโปรดปราน) อื่นๆ อีกที่สูเจ้าใฝ่ฝันจะถูกประทานให้ นั่นเป็นการช่วยเหลือจากอัลลอฮฺและชัยชนะนั้นอยู่ใกล้ จงแจ้งข่าวดีแด่บรรดาผู้ศรัทธา (ถึงชัยชนะอันยิ่งใหญ่) |
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آَمَنُوا كُونوا أَنصَارَ اللَّهِ كَمَا قَالَ عِيسَى ابْنُ مَرْيَمَ لِلْحَوَارِيِّينَ مَنْ أَنصَارِي إِلَى اللَّهِ قَالَ الْحَوَارِيُّونَ نَحْنُ أَنصَارُ اللَّهِ فَآَمَنَت طَّائِفَةٌ مِّن بَنِي إِسْرَائِيلَ وَكَفَرَت طَّائِفَةٌ فَأَيَّدْنَا الَّذِينَ آَمَنُوا عَلَى عَدُوِّهِمْ فَأَصْبَحُوا ظَاهِرِينَ (14) |
14. โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงเป็นผู้ช่วยเหลืออัลลอฮฺ ดังเช่นที่อีซา บุตรของมัรยัมได้กล่าวแก่บรรดาสาวกว่า ผู้ใดเล่าจะเป็นผู้ช่วยเหลือฉันในหนทางของอัลลอฮฺ บรรดาสาวกกล่าวว่า พวกเราเป็นผู้ช่วยเหลืออัลลอฮฺ ขณะนั้น วงศ์วานอิสรออีลกลุ่มหนึ่งได้ศรัทธา และอีกกลุ่มหนึ่งได้ปฏิเสธ เราได้สนับสนุนบรรดาผู้ศรัทธาให้เหนือกว่าศัตรูของพวกเขา แล้วพวกเขาก็กลายเป็นผู้ชัยชนะ |