<< ก่อน < สารบัญ > หลัง >>

ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ พระผู้ทรงเมตตา พระผู้ทรงปรานียิ่งเสมอ

อัลมุมตะฮินะฮฺ (Al-Mumtahana)

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا لَا تَتَّخِذُوا عَدُوِّي وَعَدُوَّكُمْ أَوْلِيَاءَ تُلْقُونَ إِلَيْهِم بِالْمَوَدَّةِ وَقَدْ كَفَرُوا بِمَا جَاءَكُم مِّنَ الْحَقِّ يُخْرِجُونَ الرَّسُولَ وَإِيَّاكُمْ أَن تُؤْمِنُوا بِاللَّهِ رَبِّكُمْ إِن كُنتُمْ خَرَجْتُمْ جِهَادًا فِي سَبِيلِي وَابْتِغَاءَ مَرْضَاتِي تُسِرُّونَ إِلَيْهِم بِالْمَوَدَّةِ وَأَنَا أَعْلَمُ بِمَا أَخْفَيْتُمْ وَمَا أَعْلَنتُمْ وَمَن يَفْعَلْهُ مِنكُمْ فَقَدْ ضَلَّ سَوَاءَ السَّبِيلِ  (1)

 1. โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย สูเจ้าอย่าได้นำศัตรูของข้าและศัตรูสูพวกเจ้ามาเป็นมิตรอีกทั้งมอบความรักใคร่แก่พวกเขา ขณะที่พวกเขาปฏิเสธสิ่งที่เป็นความจริงที่มีมายังสูเจ้า พวกเขาขับไล่เราะซูลและสูเจ้าออกจากบ้านเรือน เนื่องจากสูเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ถ้าหากสูเจ้าเคยออกไปต่อสู้ในหนทางของข้า และอพยพเพื่อแสวงหาความโปรดปรานของข้า (จงอย่าเป็นมิตรกับผู้ปฏิเสธ) แต่สูเจ้าได้สร้างสัมพันธ์ไมตรีกับพวกเขาอย่างลับๆ ขณะที่ข้ารู้ดียิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าปิดบังและเปิดเผย และบุคคลใดในหมู่สูเจ้ากระทำเช่นนั้น แน่นอน เขาได้หลงทางไปจากแนวทางอันเที่ยงธรรม

إِن يَثْقَفُوكُمْ يَكُونُوا لَكُمْ أَعْدَاءً وَيَبْسُطُوا إِلَيْكُمْ أَيْدِيَهُمْ وَأَلْسِنَتَهُم بِالسُّوءِ وَوَدُّوا لَوْ تَكْفُرُونَ  (2)

2. ถ้าหากพวกเขาควบคุมสูเจ้าได้ พวกเขาจะตั้งตนเป็นศัตรูกับสูเจ้าทันที มือและลิ้นอันเลวร้ายของพวกเขาจะสร้างความเลวทรามแก่สูเจ้า พวกเขาปรารถนาให้สูเจ้ากลับไปเป็นผู้ปฏิเสธ

لَن تَنفَعَكُمْ أَرْحَامُكُمْ وَلَا أَوْلَادُكُمْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ يَفْصِلُ بَيْنَكُمْ وَاللَّهُ بِمَا تَعْمَلُونَ بَصِيرٌ  (3)

3. บรรดาเครือญาติและบุตรหลานของสูเจ้าในวันกิยามะฮฺ จะไม่อำนวยประโยชน์อันใดแก่สูเจ้า ระหว่างสูเจ้าจะถูกแยกออกจากกัน อัลลอฮฺทรงมองเห็นในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ

قَدْ كَانَتْ لَكُمْ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ فِي إِبْرَاهِيمَ وَالَّذِينَ مَعَهُ إِذْ قَالُوا لِقَوْمِهِمْ إِنَّا بُرَاؤُ مِنكُمْ وَمِمَّا تَعْبُدُونَ مِن دُونِ اللَّهِ كَفَرْنَا بِكُمْ وَبَدَا بَيْنَنَا وَبَيْنَكُمُ الْعَدَاوَةُ وَالْبَغْضَاءُ أَبَدًا حَتَّى تُؤْمِنُوا بِاللَّهِ وَحْدَهُ إِلَّا قَوْلَ إِبْرَاهِيمَ لِأَبِيهِ لَأَسْتَغْفِرَنَّ لَكَ وَمَا أَمْلِكُ لَكَ مِنَ اللَّهِ مِن شَيْءٍ رَّبَّنَا عَلَيْكَ تَوَكَّلْنَا وَإِلَيْكَ أَنَبْنَا وَإِلَيْكَ الْمَصِيرُ  (4)

 4. แน่นอน วิถีชีวิตของอิบรอฮีมและบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมกับเขา เป็นแบบอย่างอันดีงามสำหรับสูเจ้า เมื่อพวกเขากล่าวแก่หมู่ชน (ผู้ตั้งภาคี) ของพวกเขาว่า แท้จริง พวกเราขอปลีกตัวไปจากพวกท่านและสิ่งที่พวกท่านสักการบูชานอกเหนือจากอัลลอฮฺ เราขอปฏิเสธพวกท่านในระหว่างเรากับพวกท่านคือ ความเป็นศัตรูอันชัดแจ้งต่อกันตลอดไป จนกว่าพวกท่านจะศรัทธาต่ออัลลอฮฺพระผู้ทรงเอกะ นอกจากคำกล่าวของอิบรอฮีมที่กล่าวแก่บิดาของท่าน (อาซัรผู้เป็นลุงเลี้ยงดู) ว่า (ได้มีข้อตกลง) ให้ฉันขออภัยโทษให้แก่ท่าน ขณะที่ ณ อัลลอฮฺแล้วฉันไม่มีอำนาจอันใดจะช่วยท่านได้ โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา เราขอมอบหมายความไว้วางใจต่อพระองค์  เราขอกลับไปยังพระองค์ และทั้งหมดต้องกลับคืนสู่พระองค์

رَبَّنَا لَا تَجْعَلْنَا فِتْنَةً لِّلَّذِينَ كَفَرُوا وَاغْفِرْ لَنَا رَبَّنَا إِنَّكَ أَنتَ الْعَزِيزُ الْحَكِيمُ  (5)

5. โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา โปรดอย่าให้เราเป็นเหตุทำให้บรรดาผู้ปฏิเสธหลงทาง โปรดอภัยแก่เรา โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา แท้จริง พระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณยิ่ง

لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِيهِمْ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِمَن كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ وَمَن يَتَوَلَّ فَإِنَّ اللَّهَ هُوَ الْغَنِيُّ الْحَمِيدُ  (6)

6. แน่นอน สำหรับสูเจ้าแล้ววิถีชีวิตของพวกเขาเป็นแบบอย่างอันดีงาม  แก่ผู้ที่หวังในอัลลอฮฺและวันสุดท้าย ส่วนผู้ใดผินหลังให้ (เขาได้สร้างความเสียหายแก่ตัวเอง) เนื่องจากอัลลอฮฺทรงมั่งคลั่งและคู่ควรต่อการสรรเสริญ

عَسَى اللَّهُ أَن يَجْعَلَ بَيْنَكُمْ وَبَيْنَ الَّذِينَ عَادَيْتُم مِّنْهُم مَّوَدَّةً وَاللَّهُ قَدِيرٌ وَاللَّهُ غَفُورٌ رَّحِيمٌ  (7)

7. บางทีอัลลอฮฺ อาจทรงทำให้เกิดความรักและสัมพันธ์ภาพอันดี ระหว่างสูเจ้ากับบรรดาผู้ตั้งภาคีที่ตั้งตนเป็นศัตรูในหมู่พวกเขา อัลลอฮฺทรงเดชานุภาพ อัลลอฮฺทรงอภัยและทรงเมตตาเสมอ

لَا يَنْهَاكُمُ اللَّهُ عَنِ الَّذِينَ لَمْ يُقَاتِلُوكُمْ فِي الدِّينِ وَلَمْ يُخْرِجُوكُم مِّن دِيَارِكُمْ أَن تَبَرُّوهُمْ وَتُقْسِطُوا إِلَيْهِمْ إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الْمُقْسِطِينَ  (8)

8. อัลลอฮฺ มิได้ทรงห้ามสูเจ้าไม่ให้ทำดีหรือให้ความยุติธรรม แก่บรรดาผู้ที่ไม่ได้ต่อต้านสูเจ้าในการเผยแพร่ศาสนา และมิได้ขับไล่สูเจ้าออกจากบ้านเรือนของสูเจ้า เนื่องจาก อัลลอฮฺทรงรักผู้มีความยุติธรรม

إِنَّمَا يَنْهَاكُمُ اللَّهُ عَنِ الَّذِينَ قَاتَلُوكُمْ فِي الدِّينِ وَأَخْرَجُوكُم مِّن دِيَارِكُمْ وَظَاهَرُوا عَلَى إِخْرَاجِكُمْ أَن تَوَلَّوْهُمْ وَمَن يَتَوَلَّهُمْ فَأُوْلَئِكَ هُمُ الظَّالِمُونَ  (9)

9. ทว่าอัลลอฮ ทรงห้ามสูเจ้าไม่ให้ข้องเกี่ยว หรือผูกมิตรกับบรรดาผู้ที่ต่อต้านสูเจ้าในการเผยแพร่ศาสนา ขับไล่สูเจ้าออกจากบ้านเรือนของสูเจ้า หรือช่วยเหลือผู้อื่นขับไล่สูเจ้า และผู้ใดผูกมิตรกับพวกเขา แน่นอน พวกเขาเป็นผู้อธรรม

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا إِذَا جَاءَكُمُ الْمُؤْمِنَاتُ مُهَاجِرَاتٍ فَامْتَحِنُوهُنَّ اللَّهُ أَعْلَمُ بِإِيمَانِهِنَّ فَإِنْ عَلِمْتُمُوهُنَّ مُؤْمِنَاتٍ فَلَا تَرْجِعُوهُنَّ إِلَى الْكُفَّارِ لَا هُنَّ حِلٌّ لَّهُمْ وَلَا هُمْ يَحِلُّونَ لَهُنَّ وَآتُوهُم مَّا أَنفَقُوا وَلَا جُنَاحَ عَلَيْكُمْ أَن تَنكِحُوهُنَّ إِذَا آتَيْتُمُوهُنَّ أُجُورَهُنَّ وَلَا تُمْسِكُوا بِعِصَمِ الْكَوَافِرِ وَاسْأَلُوا مَا أَنفَقْتُمْ وَلْيَسْأَلُوا مَا أَنفَقُوا ذَلِكُمْ حُكْمُ اللَّهِ يَحْكُمُ بَيْنَكُمْ وَاللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌ  (10)

10. โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย เมื่อหญิงผู้ศรัทธาได้ลี้ภัยมายังสูเจ้า เจ้าจงทดสอบพวกนาง แท้จริง อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งในการศรัทธาของพวกนาง  ครั้นเมื่อสูเจ้าพบว่าพวกนางเป็นผู้ศรัทธา จงอย่าส่งพวกนางกลับไปยังพวกปฏิเสธ เพราะพวกนางมิได้เป็นที่อนุมัติสำหรับพวกเขา และพวกเขาก็มิได้เป็นที่อนุมัติสำหรับพวกนาง และสิ่งที่พวกเขาเคยจ่ายไป (ขณะแต่งงานกับหญิงนั้น) สูเจ้าจงจ่ายคืนให้พวกเขา และไม่เป็นบาปอันใดแก่สูเจ้าที่จะแต่งงานกับพวกนาง เมื่อสูเจ้าได้ให้มะฮัรของพวกนางแก่นาง และจงอย่าหน่วงเหนี่ยวหญิงปฏิเสธไว้เป็นภริยา (หรือภริยาคนใดกลับไปเป็นผู้ปฏิเสธ) สูเจ้ามีสิทธิ์เรียกมะฮัรที่จ่ายไปแล้วคืนได้ เช่นกันสิ่งที่พวกนางได้ใช้จ่ายไปมีสิทธิ์เรียกคืนจากเจ้า นี่คือข้อตัดสินของอัลลอฮฺ พระองค์ทรงตัดสินในระหว่างสูเจ้า อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ ผู้ทรงปรีชาญาณ

وَإِن فَاتَكُمْ شَيْءٌ مِّنْ أَزْوَاجِكُمْ إِلَى الْكُفَّارِ فَعَاقَبْتُمْ فَآتُوا الَّذِينَ ذَهَبَتْ أَزْوَاجُهُم مِّثْلَ مَا أَنفَقُوا وَاتَّقُوا اللَّهَ الَّذِي أَنتُم بِهِ مُؤْمِنُونَ  (11)

11. ถ้าภริยาของบางคนในหมู่สูเจ้าหนีออกไปสู่พวกปฏิเสธ (กลับไปเป็นผู้ปฏิเสธ) ครั้นเมื่อสูเจ้ามีชัยเหนือพวกเขาในสงครามและยึดทรัพย์สงครามมาได้  ก็จงจ่ายให้แก่บรรดาผู้ที่บรรดาภริยาของตนหนีไป เท่าจำนวนมะฮัรที่พวกเขาได้จ่ายไป จงสำรวมตนต่ออัลลอฮฺ พระผู้ซึ่งสูเจ้าได้ศรัทธาต่อพระองค์

يَا أَيُّهَا النَّبِيُّ إِذَا جَاءَكَ الْمُؤْمِنَاتُ يُبَايِعْنَكَ عَلَى أَن لَّا يُشْرِكْنَ بِاللَّهِ شَيْئًا وَلَا يَسْرِقْنَ وَلَا يَزْنِينَ وَلَا يَقْتُلْنَ أَوْلَادَهُنَّ وَلَا يَأْتِينَ بِبُهْتَانٍ يَفْتَرِينَهُ بَيْنَ أَيْدِيهِنَّ وَأَرْجُلِهِنَّ وَلَا يَعْصِينَكَ فِي مَعْرُوفٍ فَبَايِعْهُنَّ وَاسْتَغْفِرْ لَهُنَّ اللَّهَ إِنَّ اللَّهَ غَفُورٌ رَّحِيمٌ  (12)

 12. โอ้ นะบีเอ๋ย เมื่อบรรดาหญิงศรัทธาได้มาหาเจ้า พวกนางให้สัตยาบันว่าพวกนางจะไม่ตั้งภาคีใดๆ เทียบเคียงอัลลอฮฺ จะไม่ขโมย จะไม่คบชู้สู่ชาย จะไม่สังหารบุตรของตน จะไม่ใส่ร้ายเสกสรรปั้นแต่งเรื่อง จะไม่ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าในการประกอบความดีงาม ดังนั้น เจ้าจงรับสัตยาบันของพวกนาง และจงขอต่ออัลลอฮฺให้อภัยแก่พวกนาง แท้จริง อัลลอฮฺทรงอภัยทรงเมตตาเสมอ

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا لَا تَتَوَلَّوْا قَوْمًا غَضِبَ اللَّهُ عَلَيْهِمْ قَدْ يَئِسُوا مِنَ الْآخِرَةِ كَمَا يَئِسَ الْكُفَّارُ مِنْ أَصْحَابِ الْقُبُورِ  (13)

13. โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย สูเจ้าอย่าได้เป็นมิตรกับหมู่ชนที่อัลลอฮฺทรงกริ้วพวกเขา แน่นอน พวกเขาได้สิ้นหวังต่อวันปรโลกแล้วเสมือนการสิ้นหวังของพวกปฏิเสธที่ฝังอยู่ในสุสาน


<< ก่อน < สารบัญ > หลัง >>