') //-->
<<หลัง | < สารบัญ> | ก่อน >> |
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ พระผู้ทรงปรานี พระผู้ทรงเมตตาเสมอ |
|
บท อัรเราะอฺดฺ - Ar-Rahdu |
|
المر تِلْكَ آيَاتُ الْكِتَابِ وَالَّذِيَ أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ الْحَقُّ وَلَكِنَّ أَكْثَرَ النَّاسِ لاَ يُؤْمِنُونَ (1) | 1.อะลิฟ ลาม มีม รออฺ เหล่านี้คือโองการแห่งคัมภีร์ และสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เจ้า จากพระผู้อภิบาลของเจ้าเป็นสัจธรรม แต่ว่ามนุษย์ส่วนมากไม่มีศรัทธา |
اللّهُ الَّذِي رَفَعَ السَّمَاوَاتِ بِغَيْرِ عَمَدٍ تَرَوْنَهَا ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ وَسَخَّرَ الشَّمْسَ وَالْقَمَرَ كُلٌّ يَجْرِي لأَجَلٍ مُّسَمًّى يُدَبِّرُ الأَمْرَ يُفَصِّلُ الآيَاتِ لَعَلَّكُم بِلِقَاءِ رَبِّكُمْ تُوقِنُونَ (2) | 2. อัลลอฮฺ คือพระผู้ทรงยกเหล่าชั้นฟ้าขึ้นโดยปราศจากเสาค้ำจุน ซึ่งสูเจ้ามองเห็นได้ แล้วทรงมั่นอยู่เหนือบัลลังก์ (บริบาลจักรวาล) ทรงบันดาลดวงตะวันและดวงเดือนให้เป็นประโยชน์ ทุกสิ่งโคจรไปตามวาระที่ได้กำหนดไว้ ทรงบริหารกิจการ ทรงจำแนกสัญญาณทั้งหลายให้ชัดแจ้ง เพื่อสูเจ้าจะได้เชื่อมั่นในการพบพระผู้อภิบาลของสูเจ้า |
وَهُوَ الَّذِي مَدَّ الأَرْضَ وَجَعَلَ فِيهَا رَوَاسِيَ وَأَنْهَارًا وَمِن كُلِّ الثَّمَرَاتِ جَعَلَ فِيهَا زَوْجَيْنِ اثْنَيْنِ يُغْشِي اللَّيْلَ النَّهَارَ إِنَّ فِي ذَلِكَ لَآيَاتٍ لِّقَوْمٍ يَتَفَكَّرُونَ (3) | 3. พระองค์คือผู้ทรงแผ่ขยายแผ่นดิน และทรงบัลดาลให้มี ณ ที่นั่นเทือกเขาอันมั่นคง และแม่น้ำลำธาร และจากพืชผลทุกชนิดทรงให้มีจำนวนคู่เป็นสอง ทรงให้ราตรีครอบคลุมทิวา แท้จริงในการนั้น ย่อมมีสัญญาณสำหรับหมู่ชนผู้ใคร่ครวญ |
وَفِي الأَرْضِ قِطَعٌ مُّتَجَاوِرَاتٌ وَجَنَّاتٌ مِّنْ أَعْنَابٍ وَزَرْعٌ وَنَخِيلٌ صِنْوَانٌ وَغَيْرُ صِنْوَانٍ يُسْقَى بِمَاءٍ وَاحِدٍ وَنُفَضِّلُ بَعْضَهَا عَلَى بَعْضٍ فِيالأُكُلِ إِنَّ فِي ذَلِكَ لَآيَاتٍ لِّقَوْمٍ يَعْقِلُونَ (4) | 4. และในแผ่นดินมีเขตแดนติดต่อใกล้เคียงกัน มีสวนพฤกษา เช่นต้นองุ่น ต้นที่มีเมล็ด และต้นอินทผลัมที่ขึ้นเป็นกอและที่อยู่โดดเดี่ยว ถูกรดด้วยน้ำจากแหล่งเดียวกัน กระนั้นเราได้ให้บางชนิดผลไม้ของมันเลิศกว่าอีกบางชนิด แท้จริงในการนั้น ย่อมมีสัญญาณสำหรับหมู่ชนผู้ใช้ปัญญา |
وَإِن تَعْجَبْ فَعَجَبٌ قَوْلُهُمْ أَئِذَا كُنَّا تُرَابًا أَئِنَّا لَفِي خَلْقٍ جَدِيدٍ أُوْلَئِكَ الَّذِينَ كَفَرُواْ بِرَبِّهِمْ وَأُوْلَئِكَ الأَغْلاَلُ فِي أَعْنَاقِهِمْ وَأُوْلَئِكَ أَصْحَابُ النَّارِ هُمْ فِيهَا خَالِدونَ (5) | 5. และถ้าเจ้าฉงน ดังนั้น คำกล่าวของพวกเขาก็น่าฉงน (ที่ว่า) เมื่อเรากลายเป็นดินไปแล้ว เราจะเกิดใหม่กระนั้นหรือ? พวกเขาคือบรรดาผู้ปฏิเสธพระผู้อภิบาลของพวกเขา ชนเหล่านั้นมีเครื่องพันธนาการที่คอของพวกเขา และชนเหล่านั้นคือชาวนรก พวกเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล |
وَيَسْتَعْجِلُونَكَ بِالسَّيِّئَةِ قَبْلَ الْحَسَنَةِ وَقَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِهِمُ الْمَثُلاَتُ وَإِنَّ رَبَّكَ لَذُو مَغْفِرَةٍ لِّلنَّاسِ عَلَى ظُلْمِهِمْ وَإِنَّ رَبَّكَ لَشَدِيدُ الْعِقَابِ (6) | 6. และพวกเขาเร่งเร้าเจ้าขอความเลวร้ายก่อนความดีงาม ทั้งที่ได้เคยมีหลายตัวอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้าพวกเขาแล้ว และแท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงเป็นผู้อภัยต่อปวงมนุษย์ในความอธรรมของพวกเขา และแท้จริงพระผู้อภิบาลของเจ้าทรงลงโทษอย่างรุนแรง |
وَيَقُولُ الَّذِينَ كَفَرُواْ لَوْلآ أُنزِلَ عَلَيْهِ آيَةٌ مِّن رَّبِّهِ إِنَّمَا أَنتَ مُنذِرٌ وَلِكُلِّ قَوْمٍ هَادٍ (7) | 7. และบรรดาผู้ปฏิเสธกล่าวว่า เหตุใดจึงไม่มีปาฏิหาริย์จากพระผู้อภิบาลของเขาถูกประทานลงมาแก่เขาเล่า แท้จริงเจ้าเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น และสำหรับทุกหมู่ชนมีผู้ชี้นำทาง |
اللّهُ يَعْلَمُ مَا تَحْمِلُ كُلُّ أُنثَى وَمَا تَغِيضُ الأَرْحَامُ وَمَا تَزْدَادُ وَكُلُّ شَيْءٍ عِندَهُ بِمِقْدَارٍ (8) | 8. อัลลอฮฺทรงรอบรู้ที่ทุกๆ เพศหญิงอุ้มครรภ์ไว้ และที่ไม่ครบในมดลูกเหือดหายไปและที่เพิ่มพูน และทุก ๆ สิ่งนั้นมีมาตรการ ณ ที่พระองค์ |
عَالِمُ الْغَيْبِ وَالشَّهَادَةِ الْكَبِيرُ الْمُتَعَالِ (9) | 9. พระผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย พระผู้ทรงเกรียงไกร พระผู้ทรงสูงส่งยิ่ง |
سَوَاءٌ مِّنكُم مَّنْ أَسَرَّ الْقَوْلَ وَمَن جَهَرَ بِهِ وَمَنْ هُوَ مُسْتَخْفٍ بِاللَّيْلِ وَسَارِبٌ بِالنَّهَارِ (10) | 10. เท่าเทียมกันในหมู่สูเจ้า ผู้ที่ปกปิดคำพูดและผู้กล่าวโดยเปิดเผย และผู้ที่ซ่อนตนในยามราตรีและผู้ที่สัญจรในยามทิวา |
لَهُ مُعَقِّبَاتٌ مِّن بَيْنِ يَدَيْهِ وَمِنْ خَلْفِهِ يَحْفَظُونَهُ مِنْ أَمْرِ اللّهِ إِنَّ اللّهَ لاَ يُغَيِّرُ مَا بِقَوْمٍ حَتَّى يُغَيِّرُواْ مَا بِأَنْفُسِهِمْ وَإِذَا أَرَادَ اللّهُ بِقَوْمٍ سُوءًا فَلاَ مَرَدَّ لَهُ وَمَا لَهُم مِّن دُونِهِ مِن وَالٍ (11) | 11. สำหรับเขาจะมีมะลาอิกะฮฺผู้เฝ้าติดตามทั้งข้างหน้าและข้างหลังเขา ซึ่งรักษาเขาตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ แท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงสภาพของประชาชาติใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงสภาพของพวกเขาเอง และเมื่ออัลลอฮฺทรงประสงค์ร้าย (เนื่องจากความประพฤติของเขา) แก่ประชาชาติใด ดังนั้น ไม่อาจเปลี่ยนแปลได้ และพวกเขาจะไม่มีผู้ช่วยเหลือนอกจากพระองค์ |
هُوَ الَّذِي يُرِيكُمُ الْبَرْقَ خَوْفًا وَطَمَعًا وَيُنْشِىءُ السَّحَابَ الثِّقَالَ (12) | 12. พระองค์คือพระผู้ทรงแสดงให้สูเจ้าเห็นสายฟ้าแลบ เพื่อให้เกิดความกลัวและความหวัง และทรงบันดาลให้เกิดเมฆทึบ |
وَيُسَبِّحُ الرَّعْدُ بِحَمْدِهِ وَالْمَلاَئِكَةُ مِنْ خِيفَتِهِ وَيُرْسِلُ الصَّوَاعِقَ فَيُصِيبُ بِهَا مَن يَشَاءُ وَهُمْ يُجَادِلُونَ فِي اللّهِ وَهُوَ شَدِيدُ الْمِحَالِ (13) | 13. เสียงฟ้าลั่นจะแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ เช่นเดียวกับมะลาอิกะฮฺ เนื่องด้วยความเกรงกลัวต่อพระองค์ และพระองค์ทรงส่งอสุนีบาต ฟาดลงบนผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ ขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันในเรื่องของอัลลอฮฺ ทั้งที่พระองค์คือผู้ทรงอำนาจยิ่ง (ในการลงโทษ) |
لَهُ دَعْوَةُ الْحَقِّ وَالَّذِينَ يَدْعُونَ مِن دُونِهِ لاَ يَسْتَجِيبُونَ لَهُم بِشَيْءٍ إِلاَّ كَبَاسِطِ كَفَّيْهِ إِلَى الْمَاء لِيَبْلُغَ فَاهُ وَمَا هُوَ بِبَالِغِهِ وَمَا دُعَاءُ الْكَافِرِينَ إِلاَّ فِي ضَلاَلٍ (14) | 14. สำหรับพระองค์คือการวิงวอนที่แท้จริง และบรรดาผู้วิงวอนต่อสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ จะไม่ได้รับการสนองตอบใด ๆ แก่พวกเขา เว้นแต่เสมือนผู้ที่แบมือทั้งสองไปยังน้ำเพื่อที่มันจะไหลสู่ปากของเขา ขณะที่น้ำนั้นจะไม่ไหลถึงปากเขา และการวิงวอน (ต่อสิ่งอื่น) ของผู้ปฏิเสธหาใช่อื่นใดนอกจากการหลงผิด |
وَلِلّهِ يَسْجُدُ مَن فِي السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ طَوْعًا وَكَرْهًا وَظِلالُهُم بِالْغُدُوِّ وَالآصَالِ (15) | 15. และผู้อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน ต่างสดุดีพระพิสุทธิ์คุณแห่งอัลลอฮฺ โดยเต็มใจหรืออิดเอื้อนก็ตาม พร้อมเงาของมัน ทั้งยามเช้าและยามเย็น |
قُلْ مَن رَّبُّ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ قُلِ اللّهُ قُلْ أَفَاتَّخَذْتُم مِّن دُونِهِ أَوْلِيَاءَ لاَ يَمْلِكُونَ لِأَنفُسِهِمْ نَفْعًا وَلاَ ضَرًّا قُلْ هَلْ يَسْتَوِي الأَعْمَى وَالْبَصِيرُ أَمْ هَلْ تَسْتَوِي الظُّلُمَاتُ وَالنُّورُ أَمْ جَعَلُواْ لِلّهِ شُرَكَاءَ خَلَقُواْ كَخَلْقِهِ فَتَشَابَهَ الْخَلْقُ عَلَيْهِمْ قُلِ اللّهُ خَالِقُ كُلِّ شَيْءٍ وَهُوَ الْوَاحِدُ الْقَهَّارُ (16) | 16. (โอ้ มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิด ใครคือพระผู้อภิบาลแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน จงกล่าวเถิด "อัลลอฮฺ" จงกล่าวเถิด พวกท่านยึดผู้อื่นจากอัลลอฮฺเป็นผู้คุ้มครองกระนั้นหรือ ซึ่งพวกเขาไม่มีอำนาจให้คุณและให้โทษแก่ตัวเอง จงกล่าวเถิด คนตาบอดกับคนตาดีเหมือนกันหรือ ความมืดทึบกับแสงสว่างนั้นเหมือนกันกระนั้นหรือ หรือเหล่าภาคีที่พวกเขาตั้งขึ้นเทียมอัลลอฮฺนั้น ได้สร้างเช่นการสร้างของพระองค์ แล้วการสร้าง (ของทั้งสอง) นั้นได้คล้ายคลึงสำหรับพวกเขากระนั้นหรือ จงกล่าวเถิด อัลลอฮฺ คือพระผู้ทรงสร้างทุกสิ่ง และพระองค์คือผู้ทรงเอกะ พระผู้ทรงพิชิต |
أَنزَلَ مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَسَالَتْ أَوْدِيَةٌ بِقَدَرِهَافَاحْتَمَلَ السَّيْلُ زَبَدًا رَّابِيًا وَمِمَّا يُوقِدُونَ عَلَيْهِ فِي النَّارِ ابْتِغَاءَ حِلْيَةٍ أَوْ مَتَاعٍ زَبَدٌ مِّثْلُهُ كَذَلِكَ يَضْرِبُ اللّهُ الْحَقَّ وَالْبَاطِلَ فَأَمَّا الزَّبَدُ فَيَذْهَبُ جُفَاءً وَأَمَّا مَا يَنفَعُ النَّاسَ فَيَمْكُثُ فِي الأَرْضِ كَذَلِكَ يَضْرِبُ اللّهُ الأَمْثَالَ (17) | 17. พระองค์ทรงประทานน้ำลงมาจากฟากฟ้า แล้วลำน้ำต่าง ๆ ไหลไปตามปริมาณของมัน กระแสน้ำได้พัดพาเอาฟองที่ฟูลอยอยู่เหนือน้ำ และจากสิ่งที่พวกเขาหลอมลงไปในไฟ (แร่ธาตุ) เพื่อหวังทำเครื่องประดับหรือเครื่องใช้ก็มีฟองเช่นกัน ในทำนองนั้นอัลลอฮฺทรงยกตัวอย่างความจริงและความเท็จ แล้วในส่วนของฟองนั้นก็จะออกไปเป็นสิ่งเหลือเดนไร้ค่า ส่วนที่เป็นประโยชน์แก่ปวงมนุษย์ก็คงจะอยู่ในแผ่นดิน ในทำนองนั้น อัลลอฮฺเปรียบอุปมาทั้งหลาย |
لِلَّذِينَ اسْتَجَابُواْ لِرَبِّهِمُ الْحُسْنَى وَالَّذِينَ لَمْ يَسْتَجِيبُواْ لَهُ لَوْ أَنَّ لَهُم مَّا فِي الأَرْضِ جَمِيعًا وَمِثْلَهُ مَعَهُ لاَفْتَدَوْاْ بِهِ أُوْلَئِكَ لَهُمْ سُوءُ الْحِسَابِ وَمَأْوَاهُمْ جَهَنَّمُ وَبِئْسَ الْمِهَادُ (18) | 18. บรรดาผู้ตอบสนองต่อพระผู้อภิบาลของพวกเขา จะได้รับความดี และบรรดาผู้ไม่ตอบสนองต่อพระองค์ แม้ว่าพวกเขาจะมีอยู่ในแผ่นดินทั้งสิ้นและมีอีกเยี่ยงนั้น พวกเขาจะเอามาไถ่โทษ (ให้รอดพ้นการลงโทษ) อย่างแน่นอน ชนเหล่านั้น พวกเขามีบัญชีที่ชั่วร้าย และจุดหมายของพวกเขาคือนรก และมันเป็นที่พำนักที่ชั่วช้ายิ่ง |
أَفَمَن يَعْلَمُ أَنَّمَا أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَبِّكَ الْحَقُّ كَمَنْ هُوَ أَعْمَى إِنَّمَا يَتَذَكَّرُ أُوْلُواْ الأَلْبَابِ (19) | 19. ดังนั้นผู้ทีรู้ว่าสิ่งที่ถูกประทานแก่เจ้าจากพระผู้อภิบาลของเจ้าเป็นความจริง จะเหมือนกับผู้ที่ตาบอดกระนั้นหรือแท้จริงบรรดาผู้มีสติปัญญาเท่านั้นที่จะใคร่ครวญ |
الَّذِينَ يُوفُونَ بِعَهْدِ اللّهِ وَلاَ يَنْقُضُونَ الْمِيثَاقَ (20) | 20. บรรดาผู้ปฏิบัติตามสัญญาของอัลลอฮฺอย่างครบถ้วน และมิได้ทำลายปฏิญญานั้น |
وَالَّذِينَ يَصِلُونَ مَا أَمَرَ اللّهُ بِهِ أَن يُوصَلَ وَيَخْشَوْنَ رَبَّهُمْ وَيَخَافُونَ سُوءَ الحِسَابِ (21) | 21.และบรรดาผู้เชื่อมสัมพันธ์ที่อัลลอฮฺทรงบัญชาให้สัมพันธ์ และเกรงกลัว (การฝ่าฝืน) พระผู้อภิบาลของพวกเขา และกลัวการไตร่สวนที่เลวร้าย |
وَالَّذِينَ صَبَرُواْ ابْتِغَاءَ وَجْهِ رَبِّهِمْ وَأَقَامُواْ الصَّلوةَ وَأَنفَقُواْ مِمَّا رَزَقْنَاهُمْ سِرًّا وَعَلاَنِيَةً وَيَدْرَؤُونَ بِالْحَسَنَةِ السَّيِّئَةَ أُوْلَئِكَ لَهُمْ عُقْبَى الدَّارِ (22) | 22. และบรรดาผู้อดทนแสวงความโปรดปรานของพระผู้อภิบาลของพวกเขา และดํารงนมาซและบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา (ในหนทางอัลลอฮฺ) โดยซ่อนเร้นและเปิดเผย พวกเขาขจัดความชั่วด้วยความดี ชนเหล่านั้น สำหรับพวกเขาจะได้รับสถานที่ดีในปั้นปลาย |
جَنَّاتُ عَدْنٍ يَدْخُلُونَهَا وَمَنْ صَلَحَ مِنْ آبَائِهِمْ وَأَزْوَاجِهِمْ وَذُرِّيَّاتِهِمْ وَالمَلاَئِكَةُ يَدْخُلُونَ عَلَيْهِم مِّن كُلِّ بَابٍ (23) | 23. สวนสวรรค์ทั้งหลายอันสถาพร พวกเขาจะเข้าไปอยู่พร้อมกับผู้ทำดีจากบรรพบุรุษของพวกเขา คู่ครองของพวกเขา และลูกๆ ของพวกเขา และมะลาอิกะฮฺจะเข้ามาหาพวกเขาจากทุกประตู |
سَلاَمٌ عَلَيْكُم بِمَا صَبَرْتُمْ فَنِعْمَ عُقْبَى الدَّارِ (24) | 24. (พร้อมกับกล่าวว่า) ความศานติจงมีแต่พวกท่าน เนื่องด้วยพวกท่านได้อดทน ที่พำนักอันประเสริฐในบั้นปลายนั้นช่างดีเสียนี่กระไร |
وَالَّذِينَ يَنقُضُونَ عَهْدَ اللّهِ مِن بَعْدِ مِيثَاقِهِ وَيَقْطَعُونَ مَآ أَمَرَ اللّهُ بِهِ أَن يُوصَلَ وَيُفْسِدُونَ فِي الأَرْضِ أُوْلَئِكَ لَهُمُ اللَّعْنَةُ وَلَهُمْ سُوءُ الدَّارِ (25) | 25. และบรรดาผู้ทำลายสนธิสัญญาของอัลลอฮฺ หลังจากที่ได้ให้คำมั่นสัญญาแก่พระองค์และพวกเขาตัดขาดสิ่งที่อัลลอฮฺทรงบัญชาให้สัมพันธ์ในนัยนั้น และก่อการเสียหายในแผ่นดิน ชนเหล่านี้ พวกเขาจะได้รับการสาปแช่งและจะได้ที่พำนักอันเลวร้าย |
اللّهُ يَبْسُطُ الرِّزْقَ لِمَنْ يَشَاءُ وَيَقَدِرُ وَفَرِحُواْ بِالْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَمَا الْحَيَاةُ الدُّنْيَا فِي الآخِرَةِ إِلاَّ مَتَاعٌ (26) | 26. อัลลอฮฺทรงเผื่อแผ่และทรงจำกัดปัจจัยยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และพวกเขาระรื่นต่อชีวิตโลกนี้ อันชีวิตโลกนี้ เมื่อเทียบกับปรโลกแล้ว ก็ไม่ใช่อันใด นอกจากความเพลิดเพลินเท่านั้น |
وَيَقُولُ الَّذِينَ كَفَرُواْ لَوْلاَ أُنزِلَ عَلَيْهِ آيَةٌ مِّن رَّبِّهِ قُلْ إِنَّ اللّهَ يُضِلُّ مَن يَشَاءُ وَيَهْدِي إِلَيْهِ مَنْ أَنَابَ (27) | 27. และบรรดาผู้ปฏิเสธกล่าวว่า เหตุใดสัญญาณ (ปาฏิหาริย์) จากพระผู้อภิบาลของเขาจึงไม่ถูกประทานให้แก่เขาเล่า จงกล่าวเถิดว่า แท้จริง อัลลอฮฺทรงให้ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ระหนหลงทาง และทรงนำทางผู้ที่สำนึกตัวกลับสู่พระองค์ |
الَّذِينَ آمَنُواْ وَتَطْمَئِنُّ قُلُوبُهُم بِذِكْرِ اللّهِ أَلاَ بِذِكْرِ اللّهِ تَطْمَئِنُّ الْقُلُوبُ (28) | 28. บรรดาผู้ศรัทธาและจิตใจของพวกเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺ ไม่ใช่ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮฺดอกหรือ ที่จิตใจจะสงบ |
الَّذِينَ آمَنُواْ وَعَمِلُواْ الصَّالِحَاتِ طُوبَى لَهُمْ وَحُسْنُ مَآبٍ (29) | 29. บรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดี ความผาสุกย่อมเป็นของพวกเขาและเป็นการกลับคืนที่ดียิ่ง |
كَذَلِكَ أَرْسَلْنَاكَ فِي أُمَّةٍ قَدْ خَلَتْ مِن قَبْلِهَا أُمَمٌ لِّتَتْلُوَ عَلَيْهِمُ الَّذِيَ أَوْحَيْنَا إِلَيْكَ وَهُمْ يَكْفُرُونَ بِالرَّحْمَنِ قُلْ هُوَ رَبِّي لا إِلَهَ إِلاَّ هُوَ عَلَيْهِ تَوَكَّلْتُ وَإِلَيْهِ مَتَابِ (30) | 30. ในทำนองนี้เราได้ส่งเจ้ามายังประชาชาติหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีประชาชาติอื่นได้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อเจ้าจะได้สาธยายแก่พวกเขาถึงสิ่งที่เราได้วะฮียฺ (วิวรณ์) แก่เจ้า ขณะที่พวกเขาปฏิเสธต่อพระผู้ทรงเมตตา จงกล่าวเถิด พระองค์คือพระผู้อภิบาลของฉัน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ เฉพาะพระองค์เท่านั้นข้าฯมอบหมาย และยังพระองค์คือการกลับคืนของข้าพระองค์ |
وَلَوْ أَنَّ قُرْآنًا سُيِّرَتْ بِهِ الْجِبَالُ أَوْ قُطِّعَتْ بِهِ الأَرْضُ أَوْ كُلِّمَ بِهِ الْمَوْتَى بَل لِّلّهِ الأَمْرُ جَمِيعًا أَفَلَمْ يَيْأَسِ الَّذِينَ آمَنُواْ أَن لَّوْ يَشَاءُ اللّهُ لَهَدَى النَّاسَ جَمِيعًا وَلاَ يَزَالُ الَّذِينَ كَفَرُواْ تُصِيبُهُم بِمَا صَنَعُواْ قَارِعَةٌ أَوْ تَحُلُّ قَرِيبًا مِّن دَارِهِمْ حَتَّى يَأْتِيَ وَعْدُ اللّهِ إِنَّ اللّهَ لاَ يُخْلِفُ الْمِيعَادَ (31) | 31. มาตรว่าด้วยอัลกุรอาน ภูเขาถูกทำให้เคลื่อนที่ หรือแผ่นดินถูกทำให้แยกออกจากกัน หรือคนตายถูกทำให้พูดได้ก็ตาม (กระนั้นพวกเขาก็ไม่ศรัทธา) ทว่าพระบัญชาทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ บรรดาผู้ศรัทธาอย่าได้สิ้นหวัง (การที่ผู้ปฏิเสธจะศรัทธา) ไม่รู้หรือว่าหากว่าอัลลอฮฺทรงประสงค์จริง แน่นอนพระองค์จะทรงนำทางมนุษย์ทั้งมวลก็ได้ และบรรดาผู้ปฏิเสธนั้น ความหายนะคงจะประสบแก่พวกเขา เนื่องด้วยพวกเขาได้กระทำไว้ หรือจะเกิดขึ้นใกล้ที่พำนักของพวกเขา จนกระทั่งสัญญาณของอัลลอฮฺได้มาถึง แท้จริงอัลลอฮฺไม่ทรงผิดสัญญา |
وَلَقَدِ اسْتُهْزِىءَ بِرُسُلٍ مِّن قَبْلِكَ فَأَمْلَيْتُ لِلَّذِينَ كَفَرُواْ ثُمَّ أَخَذْتُهُمْ فَكَيْفَ كَانَ عِقَابِ (32) | 32. โดยแน่นอน บรรดาศาสนทูตก่อนหน้าเจ้าได้ถูกเย้ยหยันมาแล้ว ดังนั้น ข้าได้ประวิงเวลาแก่บรรดาผู้ปฏิเสธ แล้วได้คร่า (ลงโทษ) พวกเขา แล้วการลงโทษของข้าเป็นเช่นใด |
أَفَمَنْ هُوَ قَآئِمٌ عَلَى كُلِّ نَفْسٍ بِمَا كَسَبَتْ وَجَعَلُواْ لِلّهِ شُرَكَاءَ قُلْ سَمُّوهُمْ أَمْ تُنَبِّئُونَهُ بِمَا لاَ يَعْلَمُ فِي الأَرْضِ أَم بِظَاهِرٍ مِّنَ الْقَوْلِ بَلْ زُيِّنَ لِلَّذِينَ كَفَرُواْ مَكْرُهُمْ وَصُدُّواْ عَنِ السَّبِيلِ وَمَن يُضْلِلِ اللّهُ فَمَا لَهُ مِنْ هَادٍ (33) | 33. ดังนั้น พระองค์ผู้ทรงเฝ้ามองทุกชีวิตตามที่ได้ขวนขวายเอาไว้ (การเฝ้าดูของพระองค์เหมือนกับผู้ที่ไม่มีซิฟัตนี้) กระนั้นหรือ และพวกเขาได้ตั้งภาคีเทียมอัลลอฮฺ จงกล่าวเถิด จงบอกชื่อพวกมัน หรือว่าพวกท่านจะบอกพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ไม่ทรงทราบ (การมีอยู่) ในแผ่นดิน หรือว่าเป็นเพียงคำพูดที่กล่าวขึ้นมาลอย ๆ (ปราศจากเหตุผล) กระนั้นหรือ หามิได้! สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธแผนการของพวกเขาได้ถูกทำให้บรรเจิด และพวกเขาถูกปิดกั้นจากแนวทาง (ของอัลลอฮฺ) และผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงให้เขาหลงทาง (เนื่องจากการกระทำของตน) ดังนั้น ไม่มีผู้นำทางสำหรับเขาอีกเลย |
لَّهُمْ عَذَابٌ فِي الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَلَعَذَابُ الآخِرَةِ أَشَقُّ وَمَا لَهُم مِّنَ اللّهِ مِن وَاقٍ (34) | 34. สำหรับพวกเขา (ผู้ตั้งภาคี) คือการลงโทษในชีวิตโลกนี้ และแน่นอน การลงโทษในปรโลกนั้นร้ายแรงกว่า และสำหรับพวกเขาไม่มีผู้ช่วยให้รอดจากอัลลอฮฺ (การลงโทษของพระองค์) |
مَّثَلُ الْجَنَّةِ الَّتِي وُعِدَ الْمُتَّقُونَ تَجْرِي مِن تَحْتِهَا الأَنْهَارُ أُكُلُهَا دَآئِمٌ وِظِلُّهَا تِلْكَ عُقْبَى الَّذِينَ اتَّقَواْ وَّعُقْبَى الْكَافِرِينَ النَّارُ (35) | 35. อุปมาสวนสวรรค์ซึ่งได้ถูกสัญญาไว้แก่บรรดาผู้สำรวมตน (ประหนึ่งสวนซึ่ง) มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน ณ เบื้องล่าง (ต้นไม้) ผลไม้และเงาร่มมีอยู่ตลอดกาล นั่นคือบั้นปลายของบรรดาผู้สำรวมตนจากความชั่ว และบั้นปลายของบรรดาผู้ปฏิเสธคือไฟนรก |
وَالَّذِينَ آتَيْنَاهُمُ الْكِتَابَ يَفْرَحُونَ بِمَا أُنزِلَ إِلَيْكَ وَمِنَ الأَحْزَابِ مَن يُنكِرُ بَعْضَهُ قُلْ إِنَّمَا أُمِرْتُ أَنْ أَعْبُدَ اللّهَ وَلا أُشْرِكَ بِهِ إِلَيْهِ أَدْعُو وَإِلَيْهِ مَآبِ (36) | 36. และบรรดาผู้ที่เราได้ประทานคัมภีร์แก่พวกเขา ต่างก็ดีใจต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เจ้า และจากกลุ่มชนต่าง ๆ มีผู้ปฏิเสธบางส่วน จงกล่าวเถิด อันที่จริง ฉันถูกบัญชาให้เคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ และฉันจะไม่ตั้งภาคีเทียมพระองค์ และฉันจะเชิญชวนไปสู่พระองค์ และยังพระองค์เท่านั้นคือการกลับของฉัน |
وَكَذَلِكَ أَنزَلْنَاهُ حُكْمًا عَرَبِيًّا وَلَئِنِ اتَّبَعْتَ أَهْوَاءَهُم بَعْدَ مَا جَاءَكَ مِنَ الْعِلْمِ مَا لَكَ مِنَ اللّهِ مِن وَلِيٍّ وَلاَ وَاقٍ (37) | 37. และในทำนองนั้นเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาเป็นข้อวินิจฉัยอันชัดแจ้งเป็นภาษาอาหรับ และหากเจ้าปฏิบัติตามอำนาจฝ่ายต่ำของพวกเขา หลังจากความรู้ประจักษ์ได้มายังเจ้าแล้ว เจ้าจะไม่มีผู้ช่วยเหลือและผู้คุ้มกันจาก (การลงโทษของ) อัลลอฮฺเลย |
وَلَقَدْ أَرْسَلْنَا رُسُلاً مِّن قَبْلِكَ وَجَعَلْنَا لَهُمْ أَزْوَاجًا وَذُرِّيَّةً وَمَا كَانَ لِرَسُولٍ أَن يَأْتِيَ بِآيَةٍ إِلاَّ بِإِذْنِ اللّهِ لِكُلِّ أَجَلٍ كِتَابٌ (38) | 38.แน่นอน เราได้ส่งบรรดาศาสนทูตมาก่อนหน้าเจ้า และเราได้ให้พวกเขามีภริยาและทายาท และไม่บังควรแก่ศาสนทูต (ไม่มีสิทธิ์) ที่จะแสดงอภินิหารสัญญาณใด ๆ เว้นแต่โดยอนุมัติของอัลลอฮฺ สำหรับทุกวาระนั้นมีบันทึกไว้แล้ว |
يَمْحُو اللّهُ مَا يَشَاءُ وَيُثْبِتُ وَعِندَهُ أُمُّ الْكِتَابِ (39) | 39. อัลลอฮฺทรงขจัดสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงยืนหยัดให้มั่น และ ณ พระองค์มีแม่บทแห่งคัมภีร์ |
وَإِن مَّا نُرِيَنَّكَ بَعْضَ الَّذِي نَعِدُهُمْ أَوْ نَتَوَفَّيَنَّكَ فَإِنَّمَا عَلَيْكَ الْبَلاَغُ وَعَلَيْنَا الْحِسَابُ (40) | 40. ถ้าเราจะให้เจ้าเห็นบางสิ่ง (การลงโทษ) ที่เราได้สัญญาแก่พวกเขาไว้ หรือเราจะให้เจ้าตายไปก่อน แท้จริง หน้าที่ของเจ้าคือการเผยแพร่ และหน้าที่ของเราคือการชำระบัญชี |
أَوَلَمْ يَرَوْاْ أَنَّا نَأْتِي الأَرْضَ نَنقُصُهَا مِنْ أَطْرَافِهَا وَاللّهُ يَحْكُمُ لاَ مُعَقِّبَ لِحُكْمِهِ وَهُوَ سَرِيعُ الْحِسَابِ (41) | 41. พวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า เรามุ่งไปยังแผ่นดินแล้วเราได้บั่นทอนเขตขันรอบๆ ของมัน และอัลลอฮฺทรงพิพากษา ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงการพิพากษาของพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ทรงฉับพลันในการคิดบัญชี |
وَقَدْ مَكَرَ الَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ فَلِلّهِ الْمَكْرُ جَمِيعًا يَعْلَمُ مَا تَكْسِبُ كُلُّ نَفْسٍ وَسَيَعْلَمُ الْكُفَّارُ لِمَنْ عُقْبَى الدَّارِ (42) | 42. แน่นอน บรรดาผู้ที่มาก่อนหน้าพวกเขาได้วางแผน ดังนั้น แผนการทั้งหมดเป็นของอัลลอฮฺ พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่ทุกชีวิตขวนขวายเอาไว้ และพวกปฏิเสธจะได้รู้ในไม่ช้านี้ว่าสถานพำนักอันประเสริฐในบั้นปลายเป็นของผู้ใด |
وَيَقُولُ الَّذِينَ كَفَرُواْ لَسْتَ مُرْسَلاً قُلْ كَفَى بِاللّهِ شَهِيدًا بَيْنِي وَبَيْنَكُمْ وَمَنْ عِندَهُ عِلْمُ الْكِتَابِ (43) | 43. และบรรดาผู้ปฏิเสธกล่าวว่า ท่านไม่ใช่ทูต จงกล่าวเถิดเพียงพอแล้ว ที่อัลลอฮฺทรงเป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และผู้ที่เขามีความ รู้ในคัมภีร์ (ก็เป็นพยานเช่นกัน) |
<<หลัง | < สารบัญ> | ก่อน >> |