') //-->
การขบคิดแม้เพียงผิวเผินถึงการสร้างสรรค์แต่ละสรรพสิ่งนั้น จะสำแดงพลานุภาพและความเป็นหนึ่งเดียวของพระผู้สร้างให้ปรากฏแก่สายตาของผู้มีปัญญา เราลองพิจารณาดูตัวอย่างต่อไปนี้
ระบบป้องกันตนเองของร่างกายซึ่งอยู่ในความสนใจของนักชีววิทยาเป็นเวลายาวนาน
ระบบป้องกันตนเองของร่างกายเป็นระบบที่สลับซับซ้อนอันประกอบไปด้วยต่อมน้ำเหลือง ต่อม Thymus ม้าม ตับ และไขกระดูก เซลต่างๆที่มีอยู่ในอวัยวะเหล่านี้แม้ว่าในแง่ของโครงสร้างจะมีความแตกต่างกันก็ตาม แต่ล้วนมีเป้าหมายและทิศทางเดียวกันทั้งสิ้นซึ่งได้แก่การป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรียและสารพิษ เป็นต้น ในการนี้เม็ดเลือดขาวซึ่งรวมอยู่ในต่อมน้ำเหลืองมีบทบาทที่สำคัญเป็นการเฉพาะ
เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เม็ดเลือดขาวซึ่งมีขนาดอยู่ระหว่าง ๗-๓๐ ไมครอน (ฟุตโน้ต ๑) จะป้องกันการแพร่กระจายของอันตรายด้วยวิธีต่างๆทันที
หนึ่งไมครอนเท่ากับเศษหนึ่งส่วนพันมิลลิเมตร
ร่างกายมนุษย์จะต้านทานกับสิ่งแปลกปลอมด้วยวิธีการต่างๆโดยการช่วยเหลือของเม็ดเลือดขาวเหล่านี้ ด้วยการผลิตสารทำลายผลของสิ่งแปลกปลอมแต่ละชนิดซึ่งมีชื่อว่า “แอนติบอดี” [1]
แอนติบอดีที่ถูกสร้างขึ้นในร่างกายนั้นมีอยู่หลากหลายชนิด บางชนิดทำหน้าที่ในการทำลายแบคทีเรียและสิ่งแปลกปลอม บางชนิดดับพิษสัตว์และยา บางชนิดคอยยับยั้งการเคลื่อนตัวของแบคทีเรีย บางชนิดทำให้สารพิษตกตะกอน และบางชนิดจะถูกผลิตออกมาเมื่อเม็ดเลือดแดงต่างหมู่เข้าสู่ร่างกายโดยการให้เลือด
ประเด็นที่น่าสนใจจากข้อเท็จจริงข้างต้นได้แก่ ความสามารถของร่างกายในการสร้างแอนติบอดีขึ้นสำหรับสิ่งแปลกปลอมแต่ละชนิดแม้กระทั่งสิ่งที่วิทยาการยังค้นไม่พบจนถึงปัจจุบันนี้ก็ตาม
๒.หัวหน้าหอดูดาว Lyons แห่งสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “ก่อนหน้าการสร้างหอดูดาว Lyons ความกว้างของจักรวาลที่เราสามารถรับรู้ได้นั้นไม่เกินไปกว่า ๕๐๐ ปีแสง [2] เท่านั้น แต่กล้องดูดาวของหอดูดาวแห่งนี้ได้
ขยายความกว้างใหญ่ของจักรวาลออกไปจนถึงหนึ่งพันล้านปีแสงเลยทีเดียว อันเป็นผลทำให้กาแลกซี่หลายล้านกาแลกซี่ถูกค้นพบซึ่งบางกาแลกซี่อยู่ห่างจากโลกเราถึงหนึ่งพันล้านปีแสงเลยทีเดียว แต่ถัดจากระยะทางดังกล่าวออกไปนั้นเป็นอวกาศที่กว้างใหญ่ไพศาล น่าสะพรึงกลัวและมืดสนิทที่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดๆได้เลย กล่าวคือแสงไม่ส่องผ่านบริเวณนั้นอันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เลนส์กล้องดูดาวได้ แต่ไม่มีข้อกังขาใดๆเลยว่าในอวกาศที่น่าสะพรึงกลัวและมืดสนิทนั้นยังคงมีกาแลกซี่อีกหลายร้อยล้านกาแลกซี่ที่จักรวาลในด้านของเรานี้ถูกพิทักษ์รักษาไว้โดยแรงดึงดูดของกาแลกซี่เหล่านั้น
จักรวาลที่ดูเหมือนว่ากว้างใหญ่ไพศาลและประกอบไปด้วยกาแลกซี่ประมาณหนึ่งแสนล้านกาแลกซี่นั้น มิได้เป็นสิ่งใดมากไปกว่าจุดเล็กๆที่ไร้ขนาดเมื่อเทียบกับจักรภพที่กว้างใหญ่กว่า และข้าพเจ้ายังไม่มั่นใจว่าในบรรยากาศอีกด้านหนึ่งของโลกที่สองนั้นจะไม่มีอีกโลกหนึ่งอยู่”
ผู้นำมวลผู้ศรัทธา อะลี (อ.) กล่าวว่า
“โอ้พระผู้อภิบาล...เราไม่อาจหยั่งถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้ เหล่าข้าพระองค์รู้แต่เพียงว่าพระองค์ทรงชีวินและดำรงอยู่ด้วยพระองค์เอง (ส่วนสรรพสิ่งอื่นๆล้วนดำรงอยู่ด้วยกับพระองค์ทั้งสิ้น) ความง่วงเหงาและการหลับไม่ครอบงำพระองค์ (ดังนั้นพระองค์จึงไม่ทรงพลั้งเผลอจากการรับรู้ถึงความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง) เป็นอันขาด
ไม่มีความคิดใดเข้าถึงพระองค์ได้ ไม่มีสายตาใดแลเห็นพระองค์ได้ แต่พระองค์ทรงมองเห็นดวงตาทั้งหลาย และทรงนับการกระทำอีกทั้งทรงมีอธิปไตยและพลานุภาพเหนือทุกสรรพสิ่ง
แม้ว่าเหล่าข้าพระองค์จะไม่ได้รับรู้สิ่งใดจาการสร้างสรรค์ของพระองค์นอกจากสิ่งที่เห็นอยู่ก็ตาม เหล่าข้าพระองค์ก็จมดิ่งอยู่ในความฉงนสนเท่ห์ในพลานุภาพของพระองค์ อีกทั้งพรรณนามันว่าเป็นความยิ่งใหญ่และอธิปไตยของพระองค์ ในขณะที่สิ่งที่ยังคงซ้อนเร้นจากเหล่าข้าพระองค์ซึ่งสายตาไร้ความสามารถในการมองเห็นมันได้ สติปัญญาหยั่งไปไม่ถึง และม่านแห่งความเร้นลับได้ขวางกั้นอยู่ระหว่างเหล่าข้าพระองค์กับสิ่งเหล่านั้น มันช่างยิ่งใหญ่กว่านัก”[3]
ใช่แล้วพลานุภาพอันเป็นหนึ่งเดียวของพระองค์ได้ก่อให้เกิดสรรพสิ่งทั้งมวล และไม่มีสิ่งใดอยู่นอกอาณาจักรแห่งอำนาจอธิปไตยของพระองค์
โลกที่เป็นอยู่นี้เกิดขึ้นมาจากพระประสงค์ของพระองค์ และตราบเท่าที่พระองค์ทรงประสงค์โลกก็จะยังคงอยู่ ดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และเทหวัตถุในท้องฟ้าอื่นๆต่างโคจรด้วยกับพลานุภาพของพระองค์ ระบบอันน่าทึ่งของโลกล้วนอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ เมื่อใดก็ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ก็ทรงสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้และนำระบบใหม่มาแทน มิใช่ว่าเมื่อพระองค์ทรงสร้างโลกแล้วก็ทรงละวางมันไว้เช่นนั้นแต่อย่างใด การเคลื่อนตัว การกระทบกระแทก การมีอยู่และการคงทนถาวรของทุกๆสิ่งนั้น เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์และอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ไม่ทรงปรารถนาที่จะสามารถเกิดขึ้นมาได้หรือคงอยู่ได้ ดังนั้นผู้สร้าง ผู้พิทักษ์รักษา ผู้คอยดูแล และผู้ปกครองนั้นคือพระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียว
ระบบที่เลอเลิศกว่าระบบธรรมชาติ
จริงอยู่ที่พระเจ้าได้ทรงวางระบบธรรมชาติไว้ในโลกนี้ ซึ่งบนพื้นฐานของระบบดังกล่าวเราสามารถคำนวณนับและคาดหมายอนาคตของปรากฏการณ์ต่างๆได้ แต่ในบางกรณีพระเจ้าจะทรงสำแดงส่วนเสี้ยวหนึ่งแห่งพลานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ออกมาให้ประจักษ์ ด้วยการสร้างระบบใหม่ที่เลอเลิศกว่าขึ้นมาครอบคลุมเหนือระบบธรรมชาติด้วยพระประสงค์ของพระองค์
ตัวอย่างของระบบอันเลอเลิศกว่านี้ปรากฏให้เห็นในหน้าประวัติศาสตร์และในการดำเนินชีวิตประจำวันของเราด้วยเช่นกัน
ในกรณีเหล่านี้เราจะพบว่าพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่ในการบริหารกิจการของโลกอย่างไร บางครั้งพระองค์ทรงเทิดเกียรติผู้ต่ำต้อยในสังคม และในบางครั้งพระองค์ทรงหยิบยื่นความต่ำต้อยให้แก่ผู้สูงศักดิ์
ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ศรัทธามั่นต่อพระเจ้าผู้ทรงพลานุภาพ เขาจะไม่มีวันสิ้นหวังในชีวิตเป็นอันขาด ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสภาวการณ์ใดๆก็ตาม ประกายแห่งความหวังยังคงส่องประกายอยู่ในมุมมืดของหัวใจอันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม และเขาจะอุ่นใจอยู่เสมอว่าเขาจะสามารถพบทางออกได้ด้วยกับการช่วยเหลือของพระเจ้า
เรื่องราวของมูซากับฟิรอูนคือเรื่องที่เราทุกคนคงเคยได้ยินกันมาแล้ว
ฟิรอูนคือผู้ที่ไม่มีตัวจับในเรื่องของการกดขี่ข่มเหง เขาฆ่าสังหารเด็กผู้ชายของวงศ์วานอิสรออีลเพื่อที่ว่า “ผู้ปลดปล่อยวงศ์วานอิสรออีลที่ได้รับสัญญาไว้” ซึ่งเขาได้รับฟังมาว่าจะโค่นบัลลังก์ของตน จะได้ไม่เกิดขึ้นมา ฟิรอูนคิดว่าโดยธรรมชาติแล้วเขาจะสามารถทัดทานพลานุภาพของพระเจ้าได้ด้วยกับแผนการดังกล่าว
แต่ความพยายามของฟิรอูนไร้ผล ผู้ปลดปล่อยที่ได้รับสัญญาไว้ก็ได้จุติขึ้นมาในที่สุด
มารดาของทารกน้อยได้รับการดลใจว่าให้นำลูกน้อยใส่หีบวางไว้ในแม่น้ำไนล์...
แม่น้ำไนล์พัดพาเขาไปถึงยังปราสาทของฟิรอูน มเหสีของฟิรอูนแลเห็นหีบดังกล่าวนางจึงเก็บขึ้นมาจากน้ำ เมื่อนางเห็นทารกในหีบนางจึงขอร้องให้ฟิรอูนรับไว้เป็นบุตรบุญธรรม ฟิรอูนตอบตกลงตามคำร้องขอของนาง พระหัตถ์อันทรงพลานุภาพของพระเจ้าได้พิทักษ์ชีวิตทารกน้อยที่ฟิรอูนหวั่นวิตกไว้ในตักของฟิรอูนเอง เพื่อเติบใหญ่ขึ้นมาโค่นล้มบัลลังก์ของเขา
พลานุภาพของพระเจ้าได้ทำให้ความพยายามและแผนร้ายของพี่น้องของศาสดายูซุฟไร้ผล อีกทั้งยังเทิดยูซุฟผู้ที่ถูกโยนลงในบ่อขึ้นสู่ตำแหน่งกษัตริย์อียิปต์...
เหล่าผู้ปฏิเสธแห่งเมืองมักกะฮฺต่างพากันร่วมสัตย์สาบานในการกำจัดศาสดาผู้ทรงเกียรติแห่งอิสลาม (ซ็อล ฯ) พวกเขาข่มเหงรังแกผู้ศรัทธาและแม้กระทั่งการคว่ำบาตรท่านศาสดาและมิตรสหายให้อาศัยอยู่ในหุบเขาอะบูฏอลิบเป็นเวลาหลายปี
และในที่สุดพวกเขาเห็นพ้องกันว่าต้องสังหารท่านศาสดาและต่างคิดว่าเล่ห์เหลี่ยมและแผนการดังกล่าวจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน แต่พระประสงค์ของพระเจ้าและพลานุภาพของพระองค์ได้พิทักษ์ท่านศาสดาไว้ และทำให้อิสลามรุดหน้าวันแล้ววันเล่า อีกทั้งยังความสถุลให้กับพวกกุเรชและเหล่าผู้ตั้งภาคี
สิ่งที่เราได้นำเสนอข้างต้นและตัวอย่างอื่นๆ ชี้ให้เราเห็นถึงข้อเท็จจริงประการหนึ่งว่า ระบบของโลกที่เป็นอยู่นี้อยู่ในพระหัตถ์แห่งพลานุภาพของพระองค์ และผู้บริหารกิจการทั้งหมดของโลกคือพระองค์ ยามใดก็ตามที่พระองค์ทรงประสงค์และสิ่งนั้นมีผลประโยชน์อันดีงามแล้ว พระองค์ก็สามารถสร้างระบบอีกระบบหนึ่งขึ้นมาซึ่งครอบคลุมเหนือระบบธรรมชาติและกฎเกณฑ์ปกติ
ปัญญาและธรรมชาติอันบริสุทธิ์จะบัญชาให้เราสดุดีสรรเสริญ ณ เบื้องหน้าพลานุภาพอันยิ่งใหญ่และเอื้ออาทรนี้ และหลีกห่างจากการฝ่าฝืนพระผู้สร้าง
พระหัตถ์แห่งพลานุภาพของพระผู้อภิบาลได้นำพาเราผ่านขั้นตอนและสภาวะต่างๆ จนกระทั่งนำเรามาสู่ภาวะแห่งการมีปัญญาและสมรรถนะ จึงเป็นการบังควรแล้วหรือที่เราจะหลงลืมพระองค์
ผู้ใดที่รู้จักพระเจ้าอีกทั้งตระหนักว่าเขามีผู้สนับสนุนช่วยเหลือที่รอบรู้และสามารถเช่นนี้ เขาจะไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคปัญหาใดๆเลย
อุปสรรคปัญหาที่ซับซ้อนที่สุดและเหตุการณ์ที่ยุ่งยากที่สุดในทัศนะของเขานั้นเป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ จึงส่งผลให้เขาบากบั่นเพื่อไปให้ถึงจุดหมายด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่ซึ่งเกิดมาจากความศรัทธามั่นต่อพระองค์ และทำให้เขาไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคใดๆ เนื่องจากเขาเห็นว่าตนเองอยู่ใต้ร่มเงาแห่งพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้เขาพิชิตอุปสรรคปัญหาต่างๆได้
ความศรัทธามั่นต่อพระเจ้าและพลานุภาพอันเป็นหนึ่งเดียวของพระองค์ ทำให้ท่านศาสดาผู้ทรงเกียรติแห่งอิสลาม (ซ็อล ฯ) ยืนหยัดเผชิญหน้ากับกลุ่มต่างๆและเหตุการณ์อันหนักหน่วง อีกทั้งทำให้ท่านฝ่าฟันอุปสรรคปัญหานานาประการเพื่อทำให้รากฐานของการเคารพภักดีพระเจ้าองค์เดียว (เตาฮีด) แข็งแรงและมั่งคง และเพื่อการก่อตั้งสำนักคิดแห่งความเป็นมนุษย์และความประเสริฐด้วยวิธีการดังกล่าว
มนุษย์ที่หัวใจของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความศรัทธาต่อพระผู้สร้างสากลจักรวาลและเบ่งบานเนื่องจากความรักสัจจธรรมนั้น จะไม่มีความรู้สึกเดียวดาย หดหู่ และสิ้นหวังเป็นอันขาด รัศมีของพระเจ้าจะส่องสว่างอยู่ในหัวใจของเขาตลอดเวลา แน่นอนที่สุดว่าบุคคลเช่นนี้ย่อมเตรียมตัวเองให้พร้อมมากที่สุดเพื่อการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์กว่าและประเสริฐกว่า
[1] กรรมวิธีในการสร้างแอนติบอดีและโครงสร้างทางเคมีของสารดังกล่าว ถือเป็นประเด็นที่มีความสลับซับซ้อนประเด็นหนึ่งในทางชีววิทยาและชีวเคมี
[2] ปีแสงคือหน่วยวัดการเดินทางของแสงในระยะเวลาหนึ่งปีซึ่งเท่ากับ ๓๐๐,๐๐๐ กิโลเมตรต่อหนึ่งวินาที
[3] นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ , คุฏบะฮฺที่ ๑๖๐