การรอคอยอิมามที่เร้นกาย

  การเร้นกาย (ฆัยบัต)

หลังจากรู้จักผู้ที่จะมาปลดปล่อยโลกและทำให้ความสูงส่งแห่งการเป็นศาสดาของท่านศาสดาอาดัม (อ.) จนถึงศาสดามุฮัมมัด (ซ็อล ฯ) ผู้เป็นบรมศาสดาและเป็นศาสดาองค์สุดท้ายเป็นความจริง อีกทั้งเป็นตัวแทนคนสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้าคือท่าน ฮุจญ์ติบนิลฮะซันมะฮฺดีย์ (อ.) แล้ว ตอนนี้จะมาอธิบายถึงการเร้นกาย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดแห่งชีวิตอันจำเริญของท่าน

1. ความเข้าใจเกี่ยวกับการฆัยบัต (เร้นกาย)

ประเด็นแรกที่ต้องพิจารณาคือคำว่า ฆัยบัต หมายถึง การเร้นกาย หรือการปกปิดจากสายตาและการมองเห็น มิได้หมายความว่าการไม่ได้ปรากฏ ดังนั้น ในบทนี้จะอธิบายถึงยุคสมัยที่อิมามมะฮฺดี (อ.) เร้นกายหายไปจากสายตาของประชาชน พวกเขามองไม่เห็นท่านขณะที่ท่านอยู่ท่ามกลางพวกเขา ใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มีรายงานจากบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์อธิบายไว้ด้วยรูปประโยคที่แตกต่างกัน

อิมามอะลี (อ.) กล่าวว่า ขอสาบานด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺพระเจ้าของอะลีว่า ข้อพิสูจน์ของพระองค์อยู่ท่ามกลางประชาชน เขาใช้ชีวิตร่วมกับประชาชน ไปมาหาสู่บ้านของพวกเขา ไปทั่วทั้งทิศเหนือ ใต้ออก และตก เขาได้ยินคำพูดของประชาชน กล่าวสลามแก่พวกเขา แต่ประชาชนจะมองไม่เห็นเขา จนกว่าจะถึงกาลเวลาที่พระเจ้าทรงกำหนด (ทรงสัญญาไว้)[1]

แน่นอน ยังมีการอธิบายเรื่องการเร้นกายของอิมามในลักษณะอื่นอีก

ตัวแทนที่เฉพาะเจาะจงของอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) กล่าวว่า อิมามมะฮฺดีย์ (อ.) จะเข้าร่วมพิธีหัจญ์ทุกปี ท่านมองเห็นประชาชน และรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี ขณะที่พวกเขามองเห็นท่าน แต่ไม่มีผู้ใดรู้จักท่าน[2]

ด้วยเหตุนี้ การเ้ร้นกายของอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) จึงมีสองลักษณะกล่าวคือ ลักษณะหนึ่งท่านเร้นกายไปจากสายตาของประชาชน ส่วนอีกลักษณะหนึ่งประชาชนมองเห็นแต่ไม่มีผู้ใดรู้จักท่าน อย่างไรก็ตามเป็นที่แน่ชัดว่าอิมาม (อ.) ปรากฏกายอยู่ท่ามกลางประชาชน

2. การเร้นกายก่อนหน้านี้

การฆัยบัตหรือการเร้นกายมิใช่ปรากฏการณ์ใหม่ที่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรกกับอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) ในฐานะข้อพิสูจน์สุดท้ายของพระองค์ รายงานจำนวนมากกล่าวว่าศาสดาจำนวนหนึ่งบางช่วงของชิวิตเร้นกายหายไป ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามวิทยปัญญา และความเหมาะสมของพระเจ้าเท่านั้น มิใช่ความประสงค์ส่วนตัวหรือความเหมาะสมของครอบครัว ด้วยเหตุนี้ การเร้นกายจึงถือว่าเป็นหนึ่งในแบบฉบับของพระเจ้า[3] ซึ่งตลอดอายุขัยของศาสดาบางท่าน เช่น ศาสดาอิดรีซ นูฮฺ ซอลิฮฺ อิบรอฮีม ยูซุบ มูซา ชุอัยบ์ อิลยาซ สุลัยมาน ดาเนียล และอีซา (อ.) ล้วนดำเนินไปตามแบบฉบับของพระองค์ทั้งสิ้น ศาสดาแต่ละท่านที่เอ่ยนามมาเป็นศาสนทูตของพระเจ้า ต่างได้เร้นกายตามความเหมาะสมและเงื่อนไขของพระองค์ทั้งสิ้น[4]

ด้วยเหตุนี้ รายงานจึงถือว่าการเร้นกายของท่านอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) เป็นหนึ่งในแบบอย่่างของบรรดาศาสดา และหนึ่งในเหตุผลที่อิมามต้องเร้นกายก็คือ ปฏิบัติตามแบบอย่างของบรรดาศาสดานั่นเอง

อิมามญะอ์ฟัรอัซซอดิก (อ.) กล่าวว่า แน่นอน สำหรับอิมามกออิมของเราต้องเร้นกายไปจากสายตาของประชาชนเป็นเวลายาวนาน  ผู้รายงานกล่าวว่า โอ้บุตรของศาสนทูตเหตุผลที่อิมามต้องเร้นการคืออะไร อิมาม กล่าวว่า พระเจ้าทรงประสงค์ให้อิมามเจริญรอยตามแบบอย่างของบรรดาศาสดาก่อนหน้านี้[5]

จากคำกล่าวข้างต้นทำให้ประเด็นหนึ่งชัดเจนขึ้นมานั่นคือ คำพูดที่กล่าวถึงการเร้นกายของอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) ซึ่งได้อธิบายไว้หลายปีก่อนที่อิมามจะประสูติ ดังจะเห็นได้ว่าท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ทุกท่านจนถึงอิมามฮะซันอัซการีย์ (อ.) ต่างกล่าวถึงการเร้นกายของอิมามมะฮฺดีย์ทั้งสิ้น บางท่านกล่าวถึงคุณลักษณะพิเศษและเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในยุคการเร้นกายของอิมาม และอิมามบางท่านกำหนดหน้าที่ของมวลผู้ศรัทธาในยุคของการเร้นกาย[6]

ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า มะฮฺีดีย์คือบุตรของฉัน เขาจะเร้นกายหายไปอย่างยาวนาน จนกระทั่งประชาชนหันเหออกจากศาสนาของตน ในเวลานั้นเขาจะปรากฏกายออกมา ประหนึ่งดาวฤกษ์ดวงใหญ่ที่ทอแสงนวลผ่อง หลังจากนั้นเขาจะสถาปนาความยุติธรรมให้กระจายไปทั่วโลก ดุจดังเช่นที่โลกเคยเปี่ยมล้นไปด้วยความอยุติธรรม[7]

3. ปรัชญาของการเร้นกาย

เพราะเหตุใดอิมามผู้เป็นข้อพิสูจน์ของพระเจ้าต้องเร้นกายไปจากสายตาของประชาชน และมีเหตุผลใด อันเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนต้องถูกกีดกันจากบะเราะกัตการปรากฏกายของอิมาม

เกี่ยวกับประเด็นนี้มีคำกล่าวและรายงานจำนวนมากมายกล่าวไว้ แต่ก่อนที่จะตอบคำถามข้างต้นจำเป็นต้องกล่าวถึงประเด็นหลักที่มีความสำคัญยิ่งกล่าวคือ

เราเชื่อมั่นไม่สงสัยว่าพระเจ้าทรงบันดาลทุกสิ่งมาบนโลกนี้ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กล้วนวางอยู่บนพื้นฐานของวิทยปัญญาและความเหมาะสมทั้งสิ้น ซึ่งไม่ว่ามนุษย์จะเข้าใจในวิทยปัญญาเหล่านั้นหรือไม่ก็ตาม ขณะเดี่ยวกันการดำเนินไปของระบบสุริยจักรวาลขึ้นอยู่กับการบริบาลของพระเจ้า และเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเร้นกายของอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) ด้วยเหตุนี้ รหัสของการเร้นกายจึงขึ้นอยู่กับวิทยปัญญาและความเหมาะสมแม้ว่ามนุษย์จะไม่รู้ถึงปรัชญาที่แท้จริงก็ตาม[8]

อิมามญะอฺฟัร อัซซอดิก (อ.) กล่าวว่า การเร้นกายสำหรับอิมามมะฮฺดีย์ไม่เป็นที่สงสัย แต่จะสร้างความคลางแคลงใจให้แก่ผู้ที่หลงผิด

นักรายงานถามอิมามถึงเหตุผลของการเร้นกายว่าคืออะไร

อิมามตอบว่า การเร้นกายเป็นคำสั่งหนึ่งของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ไม่อนุญาตให้เราอธิบายแก่พวกเจ้า การเร้นกายเป็นหนึ่งในความลับของพระเจ้า พวกเราต่างยอมรับว่าพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ และทรงปริชาญาณยิ่ง ซึ่งภารกิจทั้งหมดของพระองค์ล้วนวางอยู่บนพื้นฐานของวิทยปัญญา แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่แม้จริงของพระองค์ก็ตาม

1.เพื่อเป็นการสั่งสอนประชาชน

เมื่อประชาติไม่รู้ถึงคุณค่าของศาสนทูตและบรรดาอิมาม และไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนเมื่ออยู่ต่อหน้าอิมาม ยิ่งไปกว่านั้นยังได้แสดงการฝ่าฝืนต่อคำสั่ง ดังนั้น สมควรแล้วที่พระองค์ทรงแยกผู้นำของพระองค์ไปจากพวกเขา เพื่อให้พวกเขาได้สำนึกและเข้าใจถึงความจำเริญของอิมามเมื่ออยู่ท่ามกลางพวกเขา ในกรณีนี้การเร้นกายของอิมามจึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่สำนึก และไม่รู้ถึงคุณค่าของอิมาม

อิมามมุฮัมมัดบากิร (อ.) กล่าวว่า เมื่อพระเจ้าไม่ทรงประทานผู้ร่วมงาน หรือผู้ช่วยเหลือเราแก่ประชาชาติ แน่นอนพระเจ้าจะทรงนำเราไปจากประชาชาติ[9]

2. อิสรภาพหรือการไม่จำนนต่ิอพันธะสัญญาของคนอื่น

บรรดาผู้ที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือการปฏิวัติ อันดับแรกต้องยืนหยัดร่วมกับผู้ที่ไม่เห็นด้วยมีการตกลงกันในประเด็นต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนตั้งเอาไว้ แต่อิมามมะฮฺดีย์ (อ.) ในฐานะผู้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโลกต่างไปจากขบวนการเหล่านี้ ขบวนการเปลี่ยนแปลง การจัดตั้งรัฐบาลโลก และการสถาปนาความยุติธรรมของอิมามไม่จำเป็นต้องตกลงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือตกลงกับบรรดาผู้กดขี่ทั้งหลาย เนื่องจากรายงานจำนวนมากกล่าวว่า อิมามมีหน้าที่ต่อสู้กับผู้กดขี่ทั้งหลายบนโลก ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงโลกพร้อมสมบูรณ์ อิมามจึงจำเป็นต้องเร้นกายเพื่อจะได้ไม่ต้องทำสัญญากับบรรดาผู้กดขี่ทั้งหลาย

อิมามอะลีริฎอ (อ.) กล่าวถึงสาเหตุการเร้นกายของอิมามมะฮฺดีย์ว่า เพื่อว่าเวลาที่อิมามยืนหยัดด้วยคมดาบ จะได้ไม่มีผู้ใดสัญญาให้สัตยาบันกับท่าน[10]

3. เพื่อทดสอบประชาชน

การทดสอบประชาชนเป็นหนึ่งในแบบอย่างของพระเจ้า พระองค์ทรงทดสอบปวงบ่าวด้วยเหตุผลต่าง ๆ มากมาย เพื่อพิสูจน์ความมั่นคงในการเคารพภักดีที่่มีต่อพระองค์ และการยืนหยัดอยู่บนแนวทางสัจธรรม แน่นอน ผลการทดสอบเป็นที่ประจักษ์ชัดสำหรับพระองค์ แต่การที่พระองค์ทรงทดสอบปวงบ่าวก็เพื่อสร้างสรรค์และนำพาพวกเขาไปสู่ความสมบูรณ์สูงสุด

อิมามมูซาการซิม (อ.) กล่าวว่า เมื่อบุตรคนที่ห้าของฉันเร้นกายไปพวกเจ้าจงระวังรักษาศาสนาของเจ้าให้ดี เพื่อคนอื่นจะไ้ด้ไม่ทำให้เจ้าหันเหออกจากศาสนา แน่นอน อิมามมะฮฺดีย์ต้องเร้นกายหายไป ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้ปฏิบัติตามถอดถอนความศรัทธาออกจากหลักการศรัทธา และพระองค์ทรงใช้การเร้นกายนี้เป็นเครื่องมือทดสอบปวงบ่าว[11]

4. เพื่อปกป้องชีวิตของอิมาม

หนึ่งในปัจจัยสำคัญอันเป็นสาเหตุให้บรรดาศาสดาหันห่างออกจากประชาชาติของตนคือ การปกป้องชีวิตของท่าน เพื่อว่าจะได้สามารถประกาศคำสอนของตนในโอกาสต่อไป ในช่วงที่อยู่ในภาวะที่คับขันไม่มั่นคงท่านจะปลีกตัวออกไปจากสังคม ดังที่ท่่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ได้ปลีกตัวออกจากมักกะฮฺและหลบซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งสิ้น

ประเด็นเกี่ยวกับการเร้นกายของอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) และสาเหตุของมันมีรายงานจำนวนมากมายกล่าวอธิบายไว้ ดังเช่น

อิมามญะอฺฟัร อัซซอดิก (อ.) กล่าวว่า อิมามผู้ถูกรอคอย ก่อนที่จะยืนหยัดขึ้นต่อสู้ท่่านจะเร้นกายหายไปจากสายตาของประชาชน มีผู้ถามถึงสาเหตุของการเร้นกาย ท่านตอบว่า เพื่อปกป้องชีวิตของอิมาม[12]

แม้ว่าชะฮีด (การพลีชีพบนแนวทางของพระเจ้า) จะเป็นความหวังสูงสุดของมวลผู้ศรัทธาทั้งหลายก็ตาม แต่การชะฮีดอันเป็นที่ยอมรับคือ การปฏิบัติหน้าที่ ๆ พระเจ้าทรงมอบหมาย การปรับปรุงสังคม และการทำนุบำรุงศาสนาของตน บางครั้งความตายของคนทั่วไปอาจเป็นความตายที่ไม่มีความหมาย หรือไร้เป้าหมาย ซึ่งปกติการกลัวความตายเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตสติปัญญาก็ยอมรับสิ่งนี้ ส่วนการสังหารอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) ในฐานะที่เป็นตัวแทนคนสุดท้ายของพระเจ้า หมายถึง การทำลายวิหารกะอฺบะฮฺ ทำลายเป้าหมายของบรรดาศาสดา และหมู่มวลมิตรทั้งหลายของพระองค์ให้พังพินาศย่อยยับ เป็นการทำลายพันธะสัญญาของพระเจ้าที่ทรงสัญญาว่าจะจัดตั้งรัฐบาลโลกที่ทรงคุณธรรมที่สุดไม่ให้เป็นความจริง

กล่าวว่ารายงานได้ชี้ให้เห็นประเด็นอื่นอันเป็นสาเหตุของการเร้นกายของอิมามเอาไว้ แต่จะไม่ขอกล่าวอธิบาย ณ ที่นี้ จะอธิบายในโอกาสต่อไป อย่างไรก็ตามประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ การเร้นกายของอิมามมะฮฺดีย์ (อ.) เป็นหนึ่งในรหัสทั้งหลายของพระเจ้า ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงจะถูกเปิดเผยก่อนการปรากฏกายของท่าน ส่วนสิ่งที่นำเสนอเป็นเพียงปัจจัยที่มีผลต่อการเร้นกาย


 

[1] ฆัยบัตนุอ์มานีย์ หมวดที่10 ฮะดีซที่ 3 หน้าที่146

[2] บิอารุลอันวาร เล่มที่ ๕๒ หมวดที่ ๒๓ หน้าที่ 152

[3] อัล-กุรอานหลายโองการ เช่น บทอัลฆอฟิร /58, บทอัลฟัตฮ์ /23, อัลอิซรออ์ /77, กล่าวถึงแบบฉบับของพระเจ้า ซึ่งสามารถกล่าวสรุปได้ว่า แบบฉบับของพระเจ้าหมายถึง กฎเกณฑ์ที่ตายตัวของพระองค์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งกฎดังกล่าวครอบคลุมคำสั่งทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต (ตัฟซีรเนะมูเนะฮฺ เล่มที่ 17 หน้าที่ 435)

[4] กะมาลุดดีน เล่มที่ 1 หมวดที่ 1-7 หน้าที่ 254-300

[5] บิฮารุลอันวาร เล่มที่ 52 ฮะดีซที่ ๓ หน้าที่ 90

[6] มุนตะค็อบบุลอะซัร ภาคที่ 2 หมวดที่ 26,29 หน้าที่ 312- 340

[7] กะมาลุดดีน เล่มที่ 1 หมวดที่ 25 ฮะดีซที่ 4 หน้าที่ 536

[8] อ้างแล้วเ ล่มที่ 2 หมวดที่ 44 ฮะดีซที่ 11 หน้าที่ 204

[9] อิลลัชชะรอยิฮฺ หน้า ๒๔๔ หมวที่ ๑๗๙

[10] กะมาลุดดีน เล่มที่ 2 หมวดที่ 44 ฮะดีซที่ 4 หน้าที่ 232

[11] ฆัยบัต ฏูซีย์ ภาถที่ 5 ฮะดีซที่ 284 หน้าที่ 238

[12] กะมาลุดดีน เล่มที่ 2 หมวดที่ 44 หน้าที่ 233